วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ข่าวร้ายคอเพลงเพื่อชีวิต มาลีฮวนน่า

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นภาคใต้ สมิหลาไทมส์ (www.samilatimes.com) 


ไม่เคยมีคอเพลงเพื่อชีวิตคนใต้ คนใดคาดคิดว่าจุดแตกหักและความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง โดยมีผลประโยชน์เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นเงื่อนไขสำคัญจะเกิดขึ้นกับวงดนตรีเพื่อชีวิตวงดังที่อยู่ในหัวใจของคนภาคใต้ หรือคนภาคอื่นๆ ทั้งประเทศ อย่าง "วงมาลีฮวนน่า"
วันนี้ชัดเจนแล้วว่า 2 แกนนำหลักคนสำคัญของวงมาลีฮวนน่า คือ "นายไข่" คฑาวุธ ทองไทย นักร้องนำของวงมาลีฮวนน่า ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงกับ "นายธง"ธงชัย รักษ์รงค์ จนถึงขั้นกล่าวได้ว่า "วงแตก !" และอยากยิ่งนักที่จะรวมตัวหรือขึ้นเวทีร้องเพลงร่วมกันได้อีก

"ตอนนี้ต่างคนต่างไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันอย่างรุนแรง ครั้งล่าสุดต่างฝ่ายต่างหวาดระแวงถึงขั้นกล่าวหากันว่ามีการว่าจ้างมือปืนจากภาคใต้ และจากจังหวัดชลบุรีมายิงกัน" นี่คำบอกเล่าถึงสถานการณ์ความขัดแย้งของ 2 แกนนำมาลีฮวนน่าในวันนี้จากปากของคนใกล้ชิด "มาลีฮวนน่า" 1 ในสมาชิกบริษัท ดรีม เรกคอร์ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่แกนนำทั้ง 2 คนของ "มาลีฮวนน่า" ก่อตั้งกันขึ้นมาเมื่อปี 2543
ส่วนสาเหตุสำคัญที่เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกันระหว่างแกนนำ "วงมาลีฮวนน่า"ทั้ง 2 คน จนถึงขั้น "วงแตก !" ในวันนี้ คนใกล้ชิดวงมาลีฮวนน่าบอกว่า

"ก็คือความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ที่ได้จากการขายผลงานเพลงทั้งเทป วีซีดี.คาราโอเกะ ในชุด "เพื่อนเพ"และการแสดงสดชุด"ระบำสยาม" ซึ่งแสดงที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปลายปี 2544 ที่ผ่านมา เพราะจนถึงขณะนี้ผลงานทั้ง 2 ชิ้นนี้ ยังขายดิบขายดี เชื่อกันว่าทำเงินให้มาลีฮวนน่าในนามบริษัทดรีม เรกคอร์ด ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน" คนใกล้ชิด "วงมาลีฮวนน่า"

ถึงวันนี้สิ่งหนึ่งที่สังเกตและบอกได้อย่างชัดว่า "วงมาลีฮวนน่า" แตกแล้ว ! นั่นก็คือการแสดงคอนเสริตทุกครั้งต่อไปนี้ จะไม่ใช้ชื่อในนามวงมาลีฮวนน่าอีกแล้ว แต่จะใช่เพียงในนามของ "ไข่ - มาลีฮวนน่า" หรือ "ธง-มาลีฮวนน่า"เท่านั้นเอง
คนใกล้ชิด "วงมาลีฮวนน่า"กล่าวอย่างเสียดายด้วยว่า

"ความจริงแล้ววันนี้เทปชุดใหม่ ซึ่งเป็นชุดที่ 6 ของ "วงมาลีฮวนน่า" นั้นเสร็จแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งจนถึงขั้น "วงแตก !" แล้ว เทปชุดนี้จะออกมาได้อย่างไร และที่สำคัญมีหลายๆ เพลงคุณภาพ ที่ทั้ง "นายไข่" คฑาวุธ ทองไทย และ "นายธง"ธงชัย รักษ์รงค์ ร้องคู่กัน" อาทิ เช่น เพลง "ปาร์ตี้มาลีฮวนน่า"

"เทปชุด 6 นี้คงจะเป็นชุดสุดท้ายในนาม "วงมาลีฮวนน่า" และน่าจะเป็นชุดประวัติศาสตร์ เพราะออกมาท่ามกลางความขัดแย้งและความแตกแยกของสมาชิกใน "วงมาลีฮวนน่า" คนใกล้ชิด "มาลีฮวนน่า"กล่าวทิ้งท้าย
"วงมาลีฮวนน่า" เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2534 โดยกลุ่มนักศึกษาศิลปะที่รวมตัวกันโดย คฑาวุธ ทองไทย ซึ่งช่วงนั้นกำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร,และ ธงชัย รักษ์รงค์ ซึ่งเล่นดนตรีอยู่ตามผับทางภาคใต้,สมพงษ์ ศิวิโรจน์เรียนอยู่ไทยวิจิตรศิลป
"มาลีฮวนน่า"เป็นคำกลายมาจากภาษาอังกฤษ (Marijuana) แปลว่า กัญชา ชื่อของวงเกิดจากช่วงนั้น "สมพงษ์ ศิวิโรจน์"กำลังคลั่งไคล้เร็กเก้เลยตั้งชื่อวงว่ามาลีฮวนน่า ซึ่งเป็นคำที่บัญญัติขึ้นใหม่จากรากเดิม (ภาษาอังกฤษ ) ซึ่งอาจหมายถึงดอกกัญชา ดอกไม้แห่งดนตรี ไม้แห่งสันติภาพ แล้วแต่ใครจะรู้สึก

ในช่วงปี 2534 ทุกคนตั้งใจจะทำวงขึ้นมาแต่ก็ต้องหยุดลงเพราะ สมพงษ์ ศิวิโรจน์ เกิดท้อถอยกับปัญหาสังคม ทุกคนจึงจำต้องแยกย้ายกันไประยะหนึ่ง

ในปี 2537 "วงด้ามขวาน" โดยอาจารย์ยงยุทธ คำศรี ได้ออกอัลบั้มเพลงใต้ดินแล้วได้รับการต้อนรับจากแฟนเพลงมากมาย "วงด้ามขวาน" ได้จุดประกายให้กลุ่มเพื่อนๆ กลุ่มนี้มีกำลังใจที่จะทำวงขึ้นมาอีกครั้ง


และในปี 2537 นี้เอง "วงมาลีฮวนน่า" ได้เกิดขึ้นสมบูรณ์แบบ อัลบั้มแรกของ "มาลีฮวนน่า"ใช้ชื่อว่า บุปผาชน โดย คฑาวุธ ทองไทย รับหน้าที่ร้องนำ, ธงชัย รักษ์รงค์ ร้องนำ/ กีต้าร์, สมพงศ์ ศิวิโรจน์ รับหน้าที่แต่งเพลงและเชิดชัย ศิริโภคา ได้เข้ามาร่วมอีกหนึ่งคนในการช่วยเหลือเรื่องการเงินสำหรับการทำเทป แนวเพลงชุดแรกของมาลีฮวนน่ากลิ่นออกไปทางโฟล์คซองและอะคูสติค

เนื้อหาของเพลงจะบอกถึงแนวความคิดที่เป็นตัวของตัวเองและสะท้อนสังคมใกล้ตัวได้อย่างเด่นชัดด้วยเอกลักษณ์ทางดนตรีที่ใช้ภาษาท้องถิ่นภาคใต้ เรื่องราวของความรัก การต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเอง โดยออกวางขายแบบใต้ดิน ฝากขายตามแผงเทปต่าง ๆ เช่นร้านน้องท่าพระจันทร์ ภายในเวลาไม่นานมาลีฮวนน่าก็สามารถสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั่วประเทศด้วยเพลง หัวใจพรือโฉ้,ลมเพ ลมพัด,เรือรักกระดาษ, ในปี 2537 มาลีฮวนน่าสามารถขายเทปได้ 20,000 ม้วน เป็นประวัติการณ์ของวงแนวอินดี้


ในปี 2538 "มาโนช พุฒตาล เจ้าของค่ายไมล์สโตน" เกิดความสนใจจึงชักชวนให้ "มาลีฮวนน่า"เข้ามาร่วมงานกับค่ายไมล์สโตน มาลีฮวนน่าเริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศในปี 2539 ชื่อของมาลีฮวนน่าได้รับการยอมรับจากแฟนเพลงมากมายจนติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของวงการเพลงเพื่อชีวิต


ในปี 2540 มาลีฮวนน่าออกอัลบั้มชุดที่ 2 ชุดคนเช็ดเงา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงด้วยดีจากเพลงโมรา,ชะตากรรม และในปี 2542 ตามมาด้วยอัลบั้มกลับกลาย เป็นอัลบั้มที่แฝงไปด้วยบทกวีมีสาระที่ปลุกปลอบประโลมให้กำลังใจ


ปี 2543 มาลีฮวนน่าได้เริ่มผลิตผลงานในนาม บริษัท ดรีม เรคคอร์ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของตัวเองโดยมี 2 หัวเรือใหญ่ คฑาวุธ ทองไทย ,ธงชัย รักษ์รงค์ เป็นหุ้นส่วนใหญ่ และอัลบั้มเพื่อนเพก็ได้เกิดขึ้นจากการที่ "มาลีฮวนน่า" ได้เดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศแล้วได้พูดคุยกับเพื่อนพ้องกลุ่มศิลปิน นักประพันธ์ต่าง ๆ ที่เขียนงานเพลงขึ้นมาแล้วไม่มีโอกาสที่จะได้เผยแพร่ต่อที่สาธารณะชน มาลีฮวนน่าในฐานะที่มีโอกาสได้แสดงผลงานจึงมอบโอกาสนี้ให้กับเพื่อน ๆ ด้วยการรวบรวมบทเพลงเหล่านี้มาใส่ใน อัลบั้ม เพื่อนเพ


แต่ใครจะคาดคิดว่า "บริษัท ดรีม เรคคอร์ด" กำลังเป็นเพียงบริษัทเพลงในฝันของ "วงมาลีฮวนน่า"ในปัจจุบัน และผลงานเพลงชุด "เพื่อนเพ" จะเป็นผลงานเพลงชุดสุดท้ายของ "มาลีฮวนน่า" และผลงานเพลงในชุดนี้ก็เป็น 1 ในผลประโยชน์ ที่ทำให้ "เพื่อนพ้อง" ต้องขัดแย้งกันอย่างรุนแรงถึงขั้นเลิกคบกัน และ "มาลีฮวนน่า" ก็พบจุดจบไม่ต่างกับวงดนตรีวงอื่นๆ อีกหลายๆ วง นั่นก็คือ "วงแตก !"
สถานการณ์"วงแตก !" ของ "มาลีฮวนน่า"ในวันนี้ คงจะจบไปพร้อมๆ กับความฝันและความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อสังคม โดยหันไปสนใจให้ความสำคัญกับภาคเกษตรตามแนวพระราชดำริของในหลวง โดยจะพยายามสร้างงานภาคเกษตรของคนไทยให้ไปสู่สากล ผลักดันภาคเกษตรของคนไทยให้ไปให้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เน้นผู้คนให้รักที่มาและ รากเหง้าของตนเอง ขุดลึกไปถึงแก่นแท้ของความเป็นไทย มีความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของคนไทยด้วยกัน ซึ่งทั้งคฑาวุธ ทองไทย และ ธงชัย รักษ์รงค์ พยายามสร้างฝันนี้มาตลอด


นอกจากนั้น สถานการณ์"วงแตก !" ของ "มาลีฮวนน่า"ในวันนี้ คงจะทำให้ความฝันที่ "มาลีฮวนน่า" จะจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบปาร์ตี้ที่เกาะพะงัน ซึ่งจะใช้ชื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า yan in phangan (ยันต์ อิน พะงัน) จบลงไปด้วย ?
เพราะหนึ่งในเพลงโปรโมท ในคอนเสริต "ปาร์ตี้เกาะพงัน" ก็คือเพลง "ปาร์ตี้มาลีฮวนน่า"ซึ่งเป็นเพลงที่ร้องคู่กันระหว่าง คฑาวุธ ทองไทย และ ธงชัย รักษ์รงค์


เพราะสถานการณ์ในวันนี้ หรืออนาคต ดูท่าทีแล้วเป็นไปไม่ได้เลย ที่ทั้ง 2 คนนี้ จะขึ้นเวทีร้องเพลงร่วมกันได้อีก และเป็นไปไม่ได้เลยที่ "มาลีฮวนน่า"จะหนีจากคำว่า "วงแตก!" ไปได้

ที่มา - ข่าวจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นภาคใต้ สมิหลาไทมส์
(www.samilatimes.com)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น